เว็บไซต์หน่วยงานราชการไทยโดนแฮกข้อมูล มหาดไทยเร่งตรวจสอบ



       พบมือมืดใช้ชื่อ Fallaga Team แฮกเว็บไซต์ราชการไทยใช้ภาพผู้เสียชีวิตเป็นพื้นหลัง อ้างเป็นชาวตูนิเซีย ด้าน รมว.มหาดไทย สั่งดำเนินการตรวจสอบแล้ว

            เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2558 จนถึงช่วงเช้าของวันนี้ (24 สิงหาคม 2558) เว็บไซต์ของราชการไทยหลายแห่ง ถูกแฮกโดยแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า (Fallaga Team) โดยก่อนหน้านี้มีเว็บไซต์ของจังหวัดลำพูน เว็บไซต์สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกา จ.ปทุมธานี ถูกแฮกเข้าระบบ

            ขณะที่เวลาประมาณ 07.30 น. รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เว็บไซต์จังหวัดตาก เว็บไซต์จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดสระแก้ว ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เว็บไซต์ทั้ง 3 แห่งนี้ ถูกแฮก หรือโจมตีโดย Fallaga Team ด้วยหรือไม่

            ทางด้าน นายณรงค์ อ่อนสอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้สั่งปิดเว็บไซต์ของส่วนราชการจังหวัดลำพูน ทันทีหลังจากที่ถูกแฮก โดยรายงานข่าวระบุว่าเว็บไซต์ของส่วนราชการจังหวัดลำพูน  มีการแสดงข้อความโดยระบุรายละเอียดมากที่สุด เมื่อเทียบกับเว็บอื่น ๆ ที่ถูกแฮก ซึ่งมีข้อความว่า...

            "ถูกแฮกโดย FALLAG GASSRINI & DR LAMOUCHI กลุ่มต่อต้านไซเบอร์ชาวตูนิเซีย Fallaga Team!..." ("HACKED BY FALLAG GASSRINI & DR LAMOUCHI TUNISIAN CYBER RESISTANCE FALLAGA TEAM!...") 

            และด้านล่างเขียนข้อความว่า "สวัสดีชาวโลก! เว็บไซต์นี้ถูกแฮกโดย FALLAG GASSRINI และ DR LAMOUCHI นักรบไซเบอร์ตูนิเซีย Al Fallaga team ...


         สำหรับภาพพื้นหลังที่กลุ่มแฮกเกอร์ใช้นั้นเป็นภาพของผู้เสียชีวิต รวมทั้งภาพอวัยวะของผู้เสียชีวิต รวมทั้งภาพพระทิเบตกำลังทำพิธีศพให้ผู้เสียชีวิตในเหตุแผ่นดินไหวทิเบตเมื่อเดือนเมษายนปี 2010 แต่ภาพนี้มักจะถูกแชร์โดยระบุว่าเป็นภาพพระสงฆ์ฆ่าชาวมุสลิมในพม่า ซึ่งล่าสุด ในเวลา 04.00 น. เว็บไซต์ของจังหวัดลำพูนไม่สามารถเข้าถึงได้แล้ว มีข้อความว่า "This webpage is not available"



ทั้งนี้จากการตรวจสอบเว็บไซต์ของโรงพยาบาลลำลูกกาล่าสุดเมื่อเวลา 14.39 น. ยังคงปรากฏข้อความว่า "hacked by Fallaga Team" บนหน้าจอ ส่วนเว็บไซต์อื่น ๆ ยังเข้าใช้งานไม่ได้

            ด้านนายณัฐ พยงค์ศรี นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ต้องตกใจ กลุ่มแฮกเกอร์ใช้ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ ระบบฐานข้อมูล หรือปัญหาความปลอดภัยบนตัวเว็บไซต์นั้น เพื่อทำการแก้ไข เปลี่ยนแปลงหน้าเว็บไซต์ ซึ่งเป็นลักษณะของการประกาศความสามารถที่ตรวจเจอช่องโหว่ดังกล่าว ไม่ได้เน้นทำลายข้อมูล วิธีการแก้ไขคืออุดช่องโหว่ดังกล่าว และนำข้อมูลเว็บที่ได้รับการแก้ไขแล้วขึ้นสู่ระบบก็จะสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ สำหรับการป้องกันนั้น ต้องหมั่นอัพเดทระบบที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำ ซึ่งกรณีนี้สามารถแก้ไขได้

            ทางด้าน พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ที่มา http://hilight.kapook.com/view/125368

0 comments:

แสดงความคิดเห็น