แย่แล้ว!! “เทพ โพธิ์งาม” หลังเมียแยกทาง-ธุรกิจเจ๊ง ตอนนี้ป๋าเป็นแบบนี้แล้ว



กัดฟันสู้ชะตาชีวิตอีกครั้ง สำหรับตลกรุ่นใหญ่ “เทพ โพธิ์งาม” วัย 66 ปี หลังก่อนหน้านี้ลงทุนธุรกิจร้านอาหารย่านรามอินทรา แต่กลับขาดขาดทุนไม่เป็นท่าจนต้องปิดกิจการไป ล่าสุด “จุ๋ม ภัสราวรรณ” คู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมากว่า 35 ปี ก็ดันมาแยกทางไปอีก ส่วนหนี้สินก็ยังมีอยู่หลายล้ายบาท เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร และปัจจุบัน “เทพ โพธิ์งาม” ทำอะไรอยู่ ไปฟังเจ้าตัวกัน

อะไรที่ทำให้ป๋าตัดสินใจแยกทางกับภรรยาทั้งที่ยังรักกัน ?
“จริงๆ มีคนถามกันหลายคน ผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้มันออกไปมากๆ ดูมันน่าเกลียดเพราะว่าอายุรุ่นเรามันไม่ควรมาพูดเรื่องนี้กันมากแล้ว (หัวเราะ) มันดูทุเรศบางทีนักข่าวมาถามป๋าก็บอกว่าอย่ามาถามเรื่องนี้กันมากเลย มันเป็นเรื่องที่หลายปีแล้ว ที่ป๋าสังเกตดูว่าเมียเราเขาต้องการยังไงกันแน่ มันเหมือนกับเราอยู่กับเขาก็เหมือนเราอยู่คนเดียว หรือว่าเขาต้องการอะไรหรือเปล่า เพราะผมเนี่ยเป็นคนที่ไม่ค่อยได้บังคับอะไรใคร แม้กระทั่งเลี้ยงสัตว์ไม่เคยไปผูกสัตว์ ขังสัตว์ ผมก็ลองคิดเมียเราเขาต้องการยังไงบ้างหรือเปล่า เขาอยู่กับเราเขาอาจจะทุกข์หรือเปล่า ก็คิดไปมาก คิดมาก แล้วการแสดงออกช่วงหลังมา 3-4 ปีหลังมานี่รู้สึกว่าเป็นแนวๆ อย่างนั้น ก็เลยได้จังหวะช่วงสุดท้ายที่ผมต้องพูด หมายความว่ามันพอแล้ว มันทนไม่ไหวแล้ว หลายหน หลายครั้งจนพูดก็แล้ว ว่าอะไรก็แล้ว จนสุดท้ายลองมาห่างกันสักนิดไหม เผื่อว่าคุณต้องการอะไรไหม ระหว่างที่ห่างนี้คุณอยากจะทำอะไรก็ทำตามที่สบายใจเลย อันนี้คือใจผม มันก็ไม่แน่ ถ้าเกิดว่ามันไม่แน่สักวันมันอาจจะกลับไปอีกก็ได้ คราวนี้มันเรื่องของเวรของกรรมของบุญแล้วเขาอาจจะผมกับเขาทำกันมาแค่นี้หรือเปล่า ถ้ามันเป็นไปไม่ได้แล้วอะนะ มันอาจจะเป็นบุญกรรมป๋าอยู่ตรงนี้ เขาอาจจะไปอะไรที่มันดีกว่าก็ได้ มันไม่แน่ไง ถ้าไม่อยู่กับป๋ารู้สึกว่ามันจะลำบากรึป่าว เพราะว่าป๋าเนี่ยสังเกตดูข่าวคราวก็มีตลอด ทำอะไรก็เจ้ง เสียหาย แล้วชีวิตเขาก็ต้องลำบากมาตลอดอยู่กับเรามา 30 กว่าปี ผมว่าผมเนี่ยพาเขามาในทางที่ผิดหรือเปล่า ก็อยากจะให้เขาได้ลองได้วิ่งด้วยตัวของเขาเองบ้าง เพราะว่าเขาตามเรา ป๋าพาเขาไปผิดพลาดตลอดชีวิตเขาก็เหมือนกับมาทุกข์กับผมเนี่ยเพื่ออะไรลองดูเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก สักวันไม่แน่ว่ากรรมเวรมันยังอยู่กันมันก็ต้องกลับมา”

แยกกันด้วยดี ไม่ได้ทะเลาะ ?
“ไม่ได้ทะเลาะกันนะ”

อนาคตไม่แน่นอน ?
“ก็อาจจะกลับมาก็ได้ เป็นเรื่องปกติ มันไม่แน่นอน ผมว่าชีวิตมนุษย์มันไม่มีอะไรที่จริงจัง แล้วก็แน่นอนเป็นของเราหรอกครับ ไม่ว่าอะไรทั้งนั้น ลูกเมียเรา ครอบครัวเรา ทรัพย์สินเราอะไรทุกอย่าง ป๋าก็อาจจะมีธรรมะตรงนี้ที่เข้ามาช่วย คือธรรมชาติเราก็ธรรมตัวเป็นธรรมชาติมันจะเป็นไงก็เรื่องของมัน ป๋านี่เจ้งมากี่หนกี่ครั้ง แต่ป๋าไม่เคยเอามาใส่สมอง”

ไม่ยึดติด ?
“ไม่ยึดติด ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ถ้าเราเก็บเอาไว้เราจะทำอะไรไม่ได้ต่อไป เราคิดอะไรไม่ได้ เพราะเบื้องหลังอดีตเนี่ยมันจะมาขัดแข่งขัดขาเราไม่ให้เราเดินไปข้างหน้าเราก็ต้องทิ้งให้หมด”

ปล่อยวาง ?
“อาจจะมีส่วนตรงนั้น”

ลูกและ(อดีต)ภรรยาว่าไง ?
“ลูกๆ ก็มาครับ แต่ว่าตัวเขาเอง(อดีตภรรยา) ไม่ค่อยโทรมา ไม่เคยโทรมาจะเป็นปีแล้วครับมีแต่ลูก ลูกมา น้องมา ไม่เคยเหงาหรอกครับชีวิตนี้เพื่อนฝูงก็มาอยู่ตลอด”

ได้ยินมาว่าบ้านก็ขายแล้ว ตอนนี้อยู่ยังไง ?
“บ้านขายแล้ว ที่มานี่คือมาเปิดร้านแถวศาลายาอาจจะเปิดร้านซาลาเปามั่ง ขนมเปี๊ยะบ้าง แล้วก็กาแฟโบราณแล้วก็อาหารตามสั่ง เล็กๆ น้อยๆ ที่เล็กๆ ตรงนี้เราทำเพื่อนว่ารอจังหวะว่าสักวันหนึ่งเรามีโอกาสได้ทำงานใหญ่กว่านี้ ตรงนี้ทำไปเรื่อยๆ ให้เด็กเขามีงานทำไป”

ตอนนี้เช่าบ้านอยู่เหรอ ?
“ก็ไปเช่าที่เขาอยู่ตอนนี้ ก็นอนที่โต๊ะนั่นแหละ(หัวเราะ)”

ร้านกับบ้านที่เดียวกัน ?
“ที่เดียวกัน(หัวเราะ) เนี่ยถ้าผมเอาเขามา(อดีตภรรยา) ผมก็ต้องให้เขามาอยู่อย่างนี้อีก มันไม่ได้ไง ก็เลยลองให้เขาไปอยู่กับพ่อกับแม่เขาก่อน เขาเป็นคนที่รักพี่รักน้องเขา”

เหมือนประชดชีวิต ?
“มันไม่ได้ประชดนะ ผมอยากให้เขาได้สบายใจเพราะว่าเมื่อเราอยู่ด้วยกันมันก็เหมือนอยู่คนเดียว ต่างคนต่างอยู่อยู่แล้ว ประมาณอย่างนั้นเลยหลายปีมาแล้ว แล้วผมก็บอกเขาทุกครั้งในเรื่องการที่เขาจะพูดอะไรออกไปมันเหมือนการสาวไส้ให้กากินบางสิ่งบางอย่างผมเคยห้ามเขาแล้วอย่าไปพูด แล้วเรื่องที่เกิดมาคราวนี้ เกิดจากตรงนี้จริงๆ”

ตรงไหน ?
“ตรงที่สาวไส้ออกมาแล้วกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ตรงนี้เขาเป็นคนชอบพูด”

ธรรมชาติของผู้หญิง เวลาอึดอัดก็เล่าให้คนใกล้ชิดฟัง ?
“ถูกต้อง แต่เขาไม่รู้หรอก ผมรู้โอเคนะเป็นคนที่ดีคนหนึ่ง แต่บางครั้งเขาพูดอะไรออกไป หรือทำอะไรลงไปเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาทำอะไรที่มันผิด แต่ทำให้เรื่องมันใหญ่โตขึ้นมาได้ไง”

พี่จุ๋มเคยให้สัมภาษณ์ว่ายังรักป๋าอยู่ ?
“ก็ไม่ได้ทะเลาะกัน ผมก็ยังรักเขาอยู่ แต่เพียงแต่ว่าเมื่อรักกันแล้วมันอยู่กันอย่างนั้น ก้ห่างกันสักนิดไหม เท่านี้เองไม่ใช่ว่าเราจะเลิกราอะไรกันหรอกเพียงแต่อยากให้เขาไปทำอะไรที่เขาอยากทำ เวลาอยู่กับป๋ามันเหมือนม่าได้สนใจ เวลาเราออกมาข้างนอกมันก็หนีเข้าไปข้างใน(ยิ้ม) เราเข้าข้างในมันหนีออกมาข้างนอก(หัวเราะ) ยังไงกันแน่วะอะไรอย่างนี้เฉยๆ”

เว้นระยะห่างจะได้ไม่อึดอัด ?
“ใช่ ถ้าอยู่ใกล้กันมันจะมีปากเสียงบ่อยๆ แล้วจะกลายเป็นว่าป๋าจะสร้างบาปให้กับตัวเองตลอด”

เคยใช้กำลังทุบตีกันไหม ?
“ไม่ค่อยมีครับ เคยมีตบหน้าเขาครั้งหนึ่งเมื่อครั้งสมัยตอนสาวๆ มันมาหึงเรา เราเจ้าชู้(หัวเราะ) ชาวงนั้นหมอนวดเยอะครับ(หัวเราะ)”

พอไม่มีเขาชีวิตเราต่างไปจากแต่ก่อนไหม ?
“อย่างเก่าเลย ไม่มีอะไร ไม่มีปัญหา ลูกเต้าก็มาหาป๋าไม่ได้เหงาอะไร ลูกก็ห่วงกันทุกคนแหละ พ่อสบายดีนะ เออไม่ต้องมาห่วงกูหรอก”

อยู่คนเดียวเวลาอยากระบายจะบ่นกับใคร ?
“ไม่ใช่ ผมว่าไม่อยากจะมีอะไรมาบ่นดีกว่าเพราะว่าผมอยู่เฉยๆ จะได้นั่งคิดว่าผมจะทำอะไรต่อไป ไม่เกี่ยวอะไรเรื่องบ่น ผมว่าเป็นเรื่องไร้สาระ”

0 comments:

แสดงความคิดเห็น